กัญชาเดิมเป็นสมุนไพรพื้นบ้านใช้ในการประกอบอาหารและเป็นส่วนผสมของตำรับยาไทยกัญชาเดิมเป็นสมุนไพรพื้นบ้านใช้ในการประกอบอาหารและเป็นส่วนผสมของตำรับยาไทย ใช้กันอย่างแพร่หลายในไทยมาตั้งแต่โบราณ แต่ต้องหยุดใช้ตามอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ปี ค.ศ.1961 ขององค์การสหประชาชาติ ส่งผลให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ใครปลูกหรือใช้ย่อมมีความผิดทางอาญา
ทำให้คนไทยต้องเลิกปลูก เลิกใช้ องค์ความรู้ในการปลูกและการใช้กัญชาก็พลอยหายไปหมด มีแอบปลูก แอบใช้อยู่ใต้ดินบ้างก็ไม่มาก ไม่ได้พัฒนาความรู้ทางด้านกัญชาอย่างเปิดเผย และเป็นระบบ
ต่างประเทศเดินหน้าวิจัยกัญชาทางการแพทย์แต่ในต่างประเทศได้มีการพัฒนาความรู้ทางด้านกัญชากันในหลายประเทศ มีงานวิจัยมากมายที่แสดงว่ากัญชาสามารถนำไปผลิตเป็นยารักษาโรคต่างๆ ได้ เช่น อัลไซเมอร์, โครน, พาร์กินสัน, ทูเร็ตต์, สะเก็ดเงิน ฯลฯ รวมทั้งโรคมากมายที่ยาแผนปัจจุบันไม่อาจรักษาได้
ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ จึงมีความคิดนำกัญชามาใช้ในกิจการอาหาร เครื่องสำอาง และยา กันอย่างมากมาย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเองก็จะนำกัญชาผลิตยาตำรับเมตตาโอสถ การุณย์โอสถ
การปลูกกัญชาทางการแพทย์ต้องใช้คุณภาพและความรู้แต่เนื่องจากกัญชาที่มีคุณภาพทางการแพทย์ได้นั้นต้องมาจากโรงเรือนที่มีคุณภาพ ทนต่อทุกสภาพอากาศ ป้องกันแมลง ดิน น้ำ ไม่ให้มีโลหะหนักเจือปน เพราะกัญชาจะดูดแร่ธาตุต่างๆ สู่ต้นได้รวดเร็วมาก จึงต้องมีการควบคุมคุณภาพอย่างเป็นระบบ
การปลูกกัญชาเพื่อหวังผลระยะยาวจึงต้องมีองค์ความรู้และงานวิจัยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ด้านเกษตร เงินทุน และเวลา รวมทั้งมีความตั้งใจจริงจึงจะบรรลุเป้าหมายได้
ความร่วมมือเพื่อสุขภาพของคนไทย: วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (ภูเก็ต)
วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (ภูเก็ต) เล็งเห็นความสำคัญและปัญหาตามที่กล่าวมา และมีความพร้อมทั้งด้านความรู้ เงินทุน เวลา และความตั้งใจที่แน่วแน่ หวังจะปลูกกัญชาให้ได้มาตรฐานทางการแพทย์ให้แก่กรมการแพทย์แผนไทยฯ เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย มีรายได้บ้างจากส่วนที่เหลือ
จึงได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในการผลิตกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยมอบผลผลิตดอกกัญชาให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกนำไปผลิตยาตำรับเมตตาโอสถ การุณย์โอสถ และตำรับอื่น